ปงดูว์การ์ ( ฝรั่งเศส : Pont du Gard ) เป็น สะพานส่งน้ำ โรมันโบราณสร้างโดย จักรวรรดิโรมัน สร้างพาดผ่านแม่น้ำการ์ดง ใกล้กับเมืองเรอมูแล็ง (Remoulins) เมืองเล็ก ๆ ใน จังหวัด การ์ แคว้นล็องก์ด็อก-รูซียง ทางตอนใต้ของ ประเทศฝรั่งเศส สะพานนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบส่งน้ำของเมือง นีม มีความยาวกว่า 50 กิโลเมตร สร้างโดยชาวโรมันเพื่อส่งน้ำจากจากเมือง อูว์แซ็ส โดยระหว่างสองเมืองเป็นหุบเขา ระบบส่งน้ำที่ส่วนใหญ่อยู่ใต้ดิน ย้ายมาสร้างอยู่บนสะพานเพื่อข้ามแม่น้ำการ์ดง นักประวัติศาสตร์คาดการณ์ว่าสะพานถูกสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 โดยสะพานแห่งนี้จัดเป็นสะพานส่งน้ำที่สร้างในสมัย จักรวรรดิโรมัน ที่ยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง รองจาก สะพานส่งน้ำแห่งเซโกเบีย สะพานประกอบด้วยฐานโค้งจำนวนสามชั้น สูง 48.80 เมตร โดยระหว่างความยาวทั้งหมด ความสูงของที่ส่งน้ำต่างระดับกันประมาณเพียง 17 เมตรเท่านั้น ในขณะที่ตัวสะพานมีความสูงทั้งสองฝั่งนั้นต่างกันเพียง 2.5 เซนติเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีการก่อสร้าง และความชาญฉลาดทางวิศวกรรมของชาว โรมัน ในอดีต ในอดีตทางส่งน้ำสามารถส่งน้ำได้ประมาณ 200,00
บทความ
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
มง-แซ็ง-มีแชล ( ฝรั่งเศส : Le Mont-Saint-Michel ) คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณ จังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดี ของ ประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจาก องค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว [1] ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมง-แซ็ง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน [2] ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจาก หอไอเฟล และ พระราชวังแวร์ซาย ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็น หินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร ถือเป็นปราการธรรมชาติตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยตั้งชื่อตามวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขานั่นเอง บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของ อัครทูตสวรรค์มีคาเอล (นักบุญมิคาเอล) สร้างโดยเอมานูแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet) ในปัจจุบัน มีประชากรอยู่อาศัยบนเกาะ 44 คน จากสถิติ ณ ปีค.ศ.2009 ก่อนที่จะมีการสถาปนาราชวงศ์แรกของฝรั่งเศสขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 เกาะนี้เคยถูกเรียกว่า
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
มาการง ( ฝรั่งเศส : macaron , ออกเสียง: [makaˈʁɔ̃] ) [1] เป็นขนมหวานที่ได้จากการผสม เมอแร็งก์ กับ ไข่ขาว , น้ำตาลไอซิ่ง , น้ำตาลทรายขาว , ผงแอลมอนด์ หรือ แอลมอนด์ป่น และ สีผสมอาหาร มาการงรูปร่างเหมือนแซนด์วิช เป็นขนมปังสองชิ้นประกบกัน มีสอดไส้ตรงกลาง ส่วนไส้มักจะเป็น กานัช , บัตเตอร์ครีม (ครีมเนยที่ใช้แต่งหน้าเค้ก) หรือ แยม คำว่า มาการง แผลงมาจากคำใน ภาษาอิตาลี ว่า macarone , maccarone หรือ maccherone , เมอแร็งก์ แบบอิตาลี มาการง มีลักษณะคล้ายคุกกี้ ลักษณะเด่นของมาการงคือ ผิวด้านบนของขนมจะเรียบ ขอบรอบ ๆ เป็นรอยหยัก (มักจะเรียกว่า "ขา" หรือ "เท้า") และมีฐานเรียบแบน ขนมจะนุ่มชุ่มเล็กน้อยและละลายง่ายในปาก [2] มาการงมีหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่รสดั้งเดิม ( ราสป์เบอร์รี , ช็อกโกแลต ) ไปจนถึงรสใหม่ ๆ ( ฟัวกรา , ชาเขียว ) [3] คนส่วนใหญ่มักจะสับสนระหว่างมาการงกับ แมคารูน (macaroon) จึงมีการใช้ชื่อภาษาฝรั่งเศสมาแทนภาษาอังกฤษเพื่อให้ดูต่างกัน แต่ก็ยิ่งทำให้สะกดชื่อกันผิดมากขึ้น บางตำราอาหารแยกชื่อ แมคารูน ไว้ใช้กับมาการงที่ไม่ใช่แบบของฝรั่งเ
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ( ฝรั่งเศส : Musée du Louvre ) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็น พิพิธภัณฑ์ ทางศิลปะตั้งอยู่ใน กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัย ราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น จากตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 อย่างเช่น ภาพเขียน โมนาลิซา , The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของ เลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่งแอนทีออก ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก [ ต้องการอ้างอิง ] และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส พีระมิดแก้วของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิก ชาวจีน-อ
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
หอไอเฟล ( ฝรั่งเศส : Tour Eiffel , ตูร์แอแฟล ) เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บน ช็องเดอมาร์ บริเวณ แม่น้ำแซน ในกรุง ปารีส เป็นสัญลักษณ์ของ ประเทศฝรั่งเศส ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งชื่อตาม กุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ออกแบบหอคอยนี้ หอไอเฟลถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลก ในปี ค.ศ. 1889 (Exposition universelle de Paris de 1889) เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และความสวยทางศิลปะสถาปัตยกรรม หอคอยสูงงดงามแห่งนี้เป็นดาวเด่นที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน ซึ่งต่อมาได้รู้จักในนามหอไอเฟลและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส และในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
โมนาลิซา ( อังกฤษ : Mona Lisa ) หรือ ลาโจกอนดา ( อิตาลี : La Gioconda ) หรือ ลาโชกงด์ ( ฝรั่งเศส : La Joconde ) คือภาพวาดสีน้ำมัน สูง 77 เซนติเมตร กว้าง 53 เซนติเมตร วาดโดย เลโอนาร์โด ดา วินชี ใน คริสต์ศตวรรษที่ 16 ระหว่าง พ.ศ. 2046 (ค.ศ. 1503) ถึงปี พ.ศ. 2050 (ค.ศ. 1507) เป็นภาพที่มีชื่อเสียงทั่วโลกภาพหนึ่ง เป็นที่รู้จักในฐานะภาพของสุภาพสตรีที่มีรอยยิ้มอันเป็นปริศนา ที่ไม่รู้ว่าเธอจะยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้กันแน่ ปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของรัฐบาลฝรั่งเศส และเก็บรักษาอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Musée du Louvre) กรุง ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ภาพโมนาลิซานี้ถูกวาดโดย ดา วินชี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2046 ถึง พ.ศ. 2050 ใช้เวลานานถึง 4 ปีในการวาด ในปี ค.ศ. 1516 ( พ.ศ. 2059 ) ดา วินชีได้นำภาพจาก อิตาลี ไปที่ ฝรั่งเศส ด้วยพระราชประสงค์ของ พระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 ที่ทรงปรารถนาที่จะให้ศิลปินทั้งหลายมารวมตัวทำงานกันที่ Clos Lucé ใกล้กับ ปราสาท ในเมืองอัมบัวส์ และยังทรงให้ ดา วินชี วาดพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์อีกด้วย หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงซื้อภาพโมนาลิซา ในราคา 4,000 เอก
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ชีส - ความภาคภูมิใจของฝรั่งเศสพวกเขาเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกที่พวกเขามีรสชาติและกลิ่นหอมที่ถูกที่สุด ในฝรั่งเศสคำว่า "ชีส" เสียงเหมือน "le fromage" (หรือในต้นฉบับ - le fromage)เป็นที่เชื่อกันว่ามันมาจากการบิดเบือน "formazh" นั่นคือ "การสร้าง" หรือ "สร้าง"และนี่เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีสำหรับรูปแบบของมวลนมเปรี้ยวซึ่งเป็นที่เกิดขึ้นจากการแข็งตัวของนมในรูปแบบเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการผลิตชีสนี้ วันนี้ฝรั่งเศสผลิตมากกว่า 500 ชนิดของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมและแต่ละคนจะไม่ซ้ำกันในชนิดชีสฝรั่งเศสอาจจะอ่อนหรือแข็งหนุ่มสาวหรือเก๋าเคลือบแข็งหรือเปลือกแม่พิมพ์แพะนมหรือวัว อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจะไม่ประหลาดใจโดยความหลากหลายของสายพันธุ์เฉพาะผลิตภัณฑ์นี้ แต่ยังจำนวนเงินที่เหลือเชื่อรูปแบบของมันตัวอย่างเช่นชีสฝรั่งเศส, ภาพถ่ายที่ถูกนำเสนอในบทความนี้มีอยู่ในรูปร่างของวงการแผ่นสี่เหลี่ยมกลองสี่เหลี่ยมยืนและนอนถัง, บาร์, กรวย, สามเหลี่ยมและหัวใจ ทำไมผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้ผลิตในรูปแบบเดียวหรือไม่?ความจริงที่ว่าชีสฝรั่งเศสทุกคนมีปร